ไทปัน


ที่มา

ไทปัน คือ ความหวังในการเอื้อเฟื้อพื้นที่ของสินค้าทางเลือกต่างๆที่ได้มาจากธรรมชาติ มาจากแหล่งผลิตที่เป็นชุมชนเล็กๆ พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ตลอดจนชาวสวนชาวดอยที่ทำการเกษตรเป็นวิถีอยู่แล้ว มาแบ่งปันให้ผู้คนได้บริโภค อย่างสดใหม่ปราศจากการปรุงแต่งสารเคมี เสริมสร้างการใช้ชีวิตอย่างองค์รวมและสมดุล

เราให้ความสำคัญกับการเป็นชุมชน วัฒนธรรม และป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ หลากหลาย เพราะแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด ไทปัน มาจากการเดินทางท่องไปเรียนรู้ผู้คนในสถานที่ต่างๆ และพบเห็นความงดงาม และคุณค่า ในอีกทางหนึ่งก็เล็งเห็นผลกระทบของระบบการค้า การตลาด ในการบริโภคของสังคมกระแสสังคมปัจจุบัน

เราทำอะไร

ไทปัน จะเดินทางเรียนรู้และเสาะหาของกินของใช้จากธรรมชาติ โดยสินค้าจะเดินทางมาจากหลากหลายที่เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งนำเรื่องราวที่ได้จากการเดินทางเล่าสู่กันฟังให้แก่เพื่อนๆ


ไทปัน Buy

สินค้าหลักของเรา คือ ผลิตภัณฑ์จากงาเช่น งาคั่ว งาคั่วป่น ครีมงา และธัญพืชเช่น จมูกข้าวสาลี รำข้าว สบู่ ชาดอยและข้าวตำดอย ซื้อผ่าน - taipuntaipun@yahoo.com หรือติดต่อ ไทปัน 089 781 1981 (ใหม่) และ 089-410-5302 (เพ็ญ)


วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

เชีียงราย...เมืองหนาวในความทรงจำ






ถ้าให้นึกถึงเชียงรายก่อนหน้านี้ประมาณสองปี ฉันคงมีความรู้สึกต่อจังหวัดนี้ไม่ต่างไปจากจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย เพราะยังไม่มีความทรงจำ ยังไม่มีเรื่องราวใดๆ ...แต่ในช่วงหนึ่งปีสั้นๆที่ผ่านมานี้ เชียงรายเป็นจังหวัดหนึ่งที่เมื่อฉันนึกถึงหรือได้ยินชื่อจังหวัดนี้เมื่อใด ใจก็พาให้เกิดความรู้สึกต่างๆ มากมาย แม้ว่าฉันจะไม่เคยไปอาศัยอยู่ที่นั่น เคยแต่เพียงแวะเวียนไปเดินทางเรียนรู้เป็นบางครั้ง แต่ทุกครั้งที่ไปที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และเดินเข้าไปที่ซุ้มขายตั๋วรถทัวร์ช่องประจำ ตำแหน่งเดิม ฉันก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้พูดกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วว่า "ไปเชียงรายค่ะ..."




ครั้งแรกที่ไปเยือนเชียงราย กำลังเป็นช่วงปลายปีที่อากาศเย็น ฉันเดินทางไปกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอีกห้าคน เราตั้งใจจะไปเยี่ยมเยียนอาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่อาจารย์เรานับถือและแนะนำให้เราไปพบท่าน ...หลังจากลงรถทัวร์ตอนหกโมงเช้าซึ่งฟ้ายังไม่สว่างมากนัก มีเพื่อนใหม่มารับเราที่สถานีขนส่งเก่า จากนั้นเขาก็พาเราไป ณ สถานที่แรกที่เราได้รู้จักในเชียงรายคือ สนามบินเก่า ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกายในยามเช้าที่บรรยากาศงดงามทีเดียว และในที่นั่นเอง ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับกลุ่มสังฆะที่เราตั้งใจมาเยี่ยมเยียนทำความรู้จัก


ตลอดอาทิตย์ในเชียงราย บริเวณที่เราคุ้นเคยที่สุดคือ ถนนร่วมจิตต์ถวาย เนื่องจากฉันและเพื่อนมาเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มสังฆะที่ร้านห้องนั่งเล่น มูลนิธิสังคมวิวัฒน์ ซึ่งอยู่ในถนนสายนั้น บางครั้งเราก็ไปแวะกินข้าวที่ศูนย์อาหารธรรมชาติ ซึ่งเป็นร้านของพี่สาวคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มสังฆะนั้นเช่นกัน ในช่วงเวลาประมาณสองอาทิตย์ที่อยู่เชียงราย มีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นจากการได้รู้จักกับเพื่อนใหม่หลายคนทั้งรุ่นใกล้เคียงและรุ่นห่างกัน ฉันมักจะไม่คุ้นกับการรู้จักคนหน้าใหม่ๆ มากนัก แต่ก็รู้สึกว่าได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ช่วงเวลานั้นเราทำกิจกรรมร่วมกันหลายอย่างเช่น บอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์ของแต่ละคน วาดภาพสะท้อนชีวิตด้วยสีแป้งเปียก เขียนบันทึกส่วนตัว และในวันส่งท้ายปีเก่าก็จัดงานสังสรรค์ ที่ทำให้หลายๆคนสนุกสนานและรู้จักกันมากขึ้น




หลังจากที่ไปเยือนครั้งนั้น ฉันและเพื่อนก็กลับเข้ามาแวะเวียนเรียนรู้ร่วมกับคนที่นี่อยู่เป็นบางช่วง บางครั้งก็พาเพื่อนหน้าใหม่เข้ามาทำความรู้จัก ...ดูอย่างผิวเผินแล้ว ก็อาจเหมือนการไปเที่ยวธรรมดาๆ แต่ฉันกลับรู้สึกประทับใจกับพื้นที่แ่ห่งนี้ ซึ่งแม้ตัวเองก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไรเรื่องราวเพียงไม่กี่วัน สามารถทำให้ทุกๆ ครั้งที่มาเยี่ยมเชียงราย ฉันก็ยังนึกถึงวันเวลาดีๆที่สดใสเหล่านั้น และยิ้มให้กับความรู้สึกที่ผุดขึ้นมาในใจได้เสมอ ครั้งล่าสุดที่ฉันกลับมาที่เชียงราย ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในรถของพี่คนหนึ่ง ฉันส่งข้อความไปให้อาจารย์ที่เคยแนะนำให้ฉันมาที่นี่เป็นครั้งแรกว่า "Send you relax energy from Chaing Rai. Even though this isn't my hometown, I can feel "sense of place" here. wow... umm... :)"




เมื่อไม่นานมานี้ ฉันมีโอกาสได้กลับมาเชียงรายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเพื่่อนคนหนึ่งชวนฉันขึ้นดอยที่เป็นพื้นที่หมู่บ้านชาวพื้นเมืองเผ่าปะกากยอ เนื่องจากว่าเขาเคยไปเรียนรู้ร่วมกับชาวเผ่าปะกากยอมาก่อนแล้ว เขาจึงพาฉันเข้าไปทำความรู้จักกับครอบครัวที่เขารู้จักกันดี ซึ่งเป็นครั้งแรกอีกเช่นเคยที่ฉันได้ขึ้นดอย ในวันนั้น เมื่อไปถึงและพักทานอาหารสบายๆ เรียบร้อยแล้ว น้องในหมู่บ้านก็คั่วงาป่าสดๆ ร้อนๆ ซึ่งส่งกลิ่นหอมคลุ้งไปทั่วห้อง และฉันก็เพิ่งจะรู้ตอนนั้นเองว่าชาและงาที่ชาวเผ่าเก็บไว้กินนั้น ไม่ได้ปลูกเป็นไร่เหมือนที่ฉันนึกภาพไว้ แต่เขาเก็บมาจากป่าจริงๆหลังจากนั้น เราก็เห็นผลงานจากฝีมือการทอผ้าแบบต่างๆ ของคนในหมู่บ้าน ซึ่งทำให้เพื่อนฉันสนใจอยากขึ้นมาเรียนรู้ด้วยทันที ก่อนจะกลับ น้องพาเราไปที่จุดต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นต้นลำพูป่าขนาดสูงใหญ่ ซึ่งระหว่างทางผ่านเล้าหมู ซึ่งเพื่อนฉันบอกว่าชาวบ้านจะ "ล้มหมู" เมื่อในหมู่บ้านมีงาน




ครั้งนั้นฉันมีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศบนดอยได้เพียงไม่นานก็ต้องกลับลงมา แต่ช่วงเวลาสั้นๆ นั้นก็ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจเช่นกัน ระหว่างทางกลับที่พัก เรายังคงผ่านสถานที่ที่ฉันรู้สึกคุ้นเคย และแม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนในพื้นที่ แ่ต่เมื่อผ่านสถานที่เดิมๆ ภาพเรื่องราวในครั้งอดีตก็เข้ามาในห้วงความคิด ทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เคยสัมผัส ซึ่งถ้าจะว่ากันตามความจริงแล้ว ฉันและเพื่อนๆ จะไม่สามารถเรียนรู้ได้เลย หากไม่มีพี่ๆ ที่มีน้ำใจช่วยไปรับไปส่งเรา และเปิดที่พักอบอุ่นให้เราได้อาศัย ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ :)


แม้ว่าฉันไม่ได้เป็นคนเชียงราย ไม่เคยอยู่เชียงราย และอาจเรียกได้ด้วยซ้ำว่า เป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่เคยไปเชียงรายเท่านั้น แต่ความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ ในพื้นที่นั้นก็ยังประทับอยู่ในใจฉัน ความทรงจำเล็กๆ เช่นนี้ก็เป็นความทรงจำที่เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกๆ ในชีวิตที่ได้สัมผัส ประสบการณ์ที่เหมือนจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่กลับมีความหมายสำหรับชีวิตของคนเล็กๆ คนหนึ่ง เป็นเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงสายเล็กๆ ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับการเดินทางของคนๆ หนึ่งได้ ...ฉันไม่รู้ว่ามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นมาในอดีตบ้าง แต่เพียงแค่เดินทางเข้ามาใกล้ๆ ในช่วงเวลาไม่นาน ฉันก็สัมผัสได้ถึงความหมายในพื้นที่แห่งนี้...ที่เชียงราย :)




ขอบคุณ...กัลยาณมิตรและการเดินทาง :)


1 ความคิดเห็น: